ประกาศรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อเป็นครูพี่เลี้ยงเด็กพิการรายเดือน

โครงงานคุณธรรมจริยธรรม

“….แลกขยะสะสมบุญ เพิ่มต้นทุนให้ชีวิต” เป็นผลงานโครงงานคุณธรรมของกลุ่มเยาวชนโคกไทรยานอาสาสร้างคุณธรรม ที่น้อมนำพระราชดำรัสด้าน “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้เป็นแนวทางในการสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังคุณธรรมเพื่อให้เพื่อนนักเรียนได้มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่ดี บนพื้นฐานของ “หลักคุณธรรมพื้นฐาน 9 ประการ” ซึ่งสอดคล้องกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร เป็นกิจกรรมที่เน้นการสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน วัดและโรงเรียน สำหรับนักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้จากการนำถุงนมและขยะมาแลกอุปกรณ์การเรียน ซึ่งได้รับการบริจาคจากศิษย์เก่าและชุมชน สำหรับขยะที่ได้จะนำมาประดิษฐ์ดอกไม้ ตัดชุดเชียร์กีฬา ทำเป็นผ้าระบายริมโต๊ะ ประดิษฐ์เป็นพวงกุญแจหรือโมบายรูปแบบต่างๆ เพื่อจำหน่ายหรือนำไปแลกขยะ ส่วนรายได้จะนำไปซื้อของเพื่อไปเยี่ยมผู้สูงอายุในชุมชนและทำบุญตามโอกาสต่างๆ นอกจากนี้ขยะบางส่วนจะนำไปทำเป็นถุงเพาะพันธุ์กล้าไม้ และนำต้นกล้านั้นไปแลกขยะในชุมชนอีกที จากการทำงานของเรามีทั้งความสนุกและความเศร้า “เด็กขยะ” เป็นคำที่เราได้ยินเมื่อครั้งที่ออกไปรับแลกขยะ ตอนแรกเราก็ทุกข์ใจเหมือนกัน แต่เมื่อได้ให้กำลังใจจากคุณครูว่า “เราทำเพื่อชุมชนของเรานะ ทำเพื่อบ้านของเราเอง เราทำดีไม่ต้องอาย” เมื่อเราทำกิจกรรมบ่อยครั้ง ชุมชนเริ่มเข้าใจและให้การสนับสนุนกิจกรรมเป็นอย่างดี
“รางวัลเหรียญทอง” การประกวดโครงงานคุณธรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในงานศิลปหัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 60 ที่จังหวัดอุดรธานี นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของโรงเรียนและชุมชนบ้านโคกลำดวนที่ได้มีส่วนร่วมกันทำชุมชนให้น่าอยู่และบ่มเพาะคุณธรรมจริยธรรมที่ดีให้เกิดขึ้นกับนักเรียน และยังมีความประทับใจอีกหลายอย่างที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นอีกหลายอย่าง อาทิเช่น นักข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ได้มาสัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำกิจกรรม และตีพิมพ์ลงในคอลัมน์ “เลาะรั้วสถาบัน” ฉบับวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้มาบันทึกเทปโทรทัศน์ รายการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้โรงเรียนได้ไปจัดแสดงนิทรรศการ จากโครงงานคุณธรรมสู่งานอาชีพ ณ หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุรินทร์ ในการประกวดสหกรณ์ออมทรัพย์ดีเด่นแห่งประเทศไทย....นับเป็นกำลังใจที่สำคัญยิ่ง ... แก่เยาวชนกลุ่มเล็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและก้าวเดินต่อไป...

หนังสั้น กิจกรรมเด่นด้านคุณธรรมจริยธรรม

“อ้อย-อ้อ-อิน-ฟ้า-เหนียง" ผู้กำกับรุ่นเยาว์กับรางวัลระดับชาติจากผลงานหนังสั้นคุณธรรมจริยธรรม

ถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของ 5 ผู้กำกับรุ่นเยาว์ “อ้อย"บุษบา ยาหอม “อ้อ” สุภาภรณ์ บุญสรณ์ “อิน”ศุภกิจ ใสนวน “ฟ้า”แก้วฟ้า โต๊ะงาม และ “เหนียง" วรนุช คลังเพชร ที่ผนึกกำลังกันเพื่อสร้างสรรค์หนังสั้นเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมเรื่อง “หรั่ง เด็กผู้ชายหัวใจเพชร” เพื่อเข้าร่วมประกวดในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 60 ประจำปีการศึกษา2553 และประสบความสำเร็จสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศระดับชาติ ในระดับมัธยมศึกษา (ม.1-ม.6) สร้างชื่อเสียงให้กับสพป.สุรินทร์ 1 และโรงเรียนบ้านโคกลำดวน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นโต้โผใหญ่ในการจัดงานดี ๆ ครั้งนี้ “หรั่ง เด็กผู้ชายหัวใจเพชร” หนังสั้นเรื่องนี้ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ผู้กำกับรุ่นเยาว์ที่ร่วมงานด้วยกันได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังว่า กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เบื้องหลังแปดเปื้อนไปด้วยน้ำตาและเม็ดเหงื่อก้อนโต เริ่มจากที่ครูพิชิตได้ประกาศรับสมัครนักเรียนที่สนใจจะร่วมทีม ซึ่งมีนักเรียนมาสมัครเพียง 2 คน คือ เหนียง และอ้อ ซึ่งทั้งคู่ได้ช่วยกันเฟ้นหาเพื่อนที่สนใจและกล้าหาญเข้ามาร่วมทีมอีก 3 คน คือ อ้อย อิน และฟ้า เหตุที่ไม่มีนักเรียนมาสมัครร่วมทีมเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวทำได้ไม่ดีเท่ารุ่นพี่ที่เคยสร้างชื่อเสียงไว้เมื่อปี 2551 ที่ได้เหรียญทองระดับชาติมาแล้ว หลังจากนั้นแต่ละคนต้องทำการบ้านอย่างหนัก ในการคิดพล็อตเรื่อง เขียนบท เฟ้นหาตัวนักแสดง ซักซ้อมบท พร้อมทั้งจัดหากล้องวีดิโอและอุปกรณ์ในการถ่ายทำ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการตัดต่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ท่านผอ.อัมพร และครูพิชิตได้ให้การช่วยเหลือและดูแลอย่างใกล้ชิดชนิดที่ว่า หายใจเข้าหายใจออกเป็นหนังสั้น เพราะทุกอย่างถูกจำกัดด้วยเวลา โดยทีมงานเรามีเวลา 2 วัน ในการทำกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่คิดพล็อตเรื่องจนถึงตัดต่อมาเป็นตัวหนัง และวันที่ 3 เราต้องนำหนังสั้นเข้าไปแข่งขันในระดับเครือข่ายฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับทีมงานอย่างมาก เมื่อกรรมการตัดสินบอกว่า “หนังสั้นของพวกเธอทำได้ดีมาก มีโอกาสไปถึงระดับภาค แต่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมในสิ่งที่แนะนำไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นทีมงานถึงกับยิ้มทั้งน้ำตา กลับมาเราประชุมกันทุกวันวันละ 3 เวลาก็ว่าได้ และมีความเห็นต้องกันว่าต้องถ่ายทำเพิ่ม ให้มีฉากพระเดินบิณฑบาต โดยมีข้อแม้ว่าต้องให้พระเดินท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจีในยามเช้า ในวันต่อมาทีมงานได้นัดแนะกับนักแสดง ซึ่งประกอบด้วย น้องหรั่งนักแสดงนำ พระ และชาวบ้านที่มาตักบาตร ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อชาวบ้านมาตักบาตรเกือบทั้งหมู่บ้าน ทำให้ทีมงานถึงกับยิ้มไม่หุบ ฉากนี้ผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากนั้นเป็นฉากที่พระจะต้องเดินบนคันนา ปรากฏว่าฉากที่เราเตรียมการไว้ เมื่อคืนฝนตกหนัก น้ำท่วมคันนาทำให้ทั้งพระและทีมงานต้องเดินลุยน้ำหาแปลงนาที่น้ำไม่ท่วมเพื่อให้ได้ภาพที่สวยตามที่ได้ต้องการ โดยที่ทุกคนให้ความร่วมมือดีมาก ไม่มีใครปริปากบ่นเลย มีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข ทำให้การถ่ายทำฉากนี้ผ่านไปด้วยดีพร้อมกับความเปียกปอนของนักแสดงและทีมงาน
การแข่งขันระดับอำเภอและเขตพื้นที่ สำหรับการแข่งขันระดับอำเภอนั้นทีมงานตื่นเต้นกันมากและนอนไม่หลับมาหลายวัน เพราะคู่แข่งที่น่ากลัวของเราอยู่อำเภอเดียวกันกับเรานี่เอง เราลุกกันไปตั้งแต่เช้า ข้าวปลาไม่มีใครได้กิน พอถึงเวลาปรากฏว่าไม่มีทีมเข้าร่วมแข่งขันแต่อย่างใด ทำให้ทีมงานโล่งอกไประดับหนึ่ง ด่านต่อไปคือการแข่งขันระดับเขตพื้นที่ สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้มีคู่แข่งที่น่าจับตาหลายโรง ล้วนแต่สุดยอดฝีมือทั้งนั้น แต่เมื่อถึงเวลาประกาศผลโรงเรียนบ้านโคกลำดวนก็สามารถผ่านการคัดเลือกได้เป็นตัวแทนสพป.สุรินทร์ 1 ไปแข่งขันระดับภาคที่จังหวัดอุดรธานีได้สำเร็จ หลังจากผิดหวังในปีที่ผ่านมา
สำหรับฉากที่ถกเถียงกันไม่จบ คือ ฉากที่หรั่งโดนรถชน ยังไม่ค่อยสมจริงนัก จากคำวิจารณ์ของผู้ที่ได้รับชมหนั้งสั้นของเรา ทำให้ทีมงานต้องทำการบ้านอย่างหนัก ประชุมพูดคุยกัน 3 เวลา ออกแบบฉากว่าทำอย่างไรที่จะให้ดูเหมือนไม่ใช่การแสดง คือ ให้มีความสมจริงมากที่สุด และเมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริง พวกเราก็ต้องพบกับอุปสรรคที่มีฝนตกฟ้าคะนอง ต้องเลื่อนวันถ่ายทำออกไปอีก ครั้งหลังนี้พวกเราได้บนบานศาลกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทางขอให้ลมฟ้าอากาศเป็นใจด้วย พอถึงเวลาปรากฏว่าสภาพอากาศสดใสปลอดโปร่ง ทำให้การถ่ายทำในรอบนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี กว่าจะได้ฉากนี้ฉากเดียวนักแสดงถึงกับฟกช้ำดำเขียวที่แขน ขาและศีรษะ ทีมงานนั่งรถกลับบ้านด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงแม้จะมีกลิ่นยาหม่องคละคลุ้งไปทั่วทั้งคันก็ตาม
การแข่งขันระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 61 ทีม ทีมงานคุณธรรมหน้าใสจากโรงเรียนบ้านโคกลำดวน ได้ลำดับแข่งขันที่ 8 ของวันที่ 26 ธันวาคม 2553 ในวันนั้นช่วงที่รอคิวเข้าแข่งขัน ทีมงานเกิดอาการหวั่นๆ เพราะผู้เข้าร่วมแข่งขันล้วนเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ เกือบทุกโรงเป็นโรงเรียนประจำอำเภอหรือประจำจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งในด้านอุปกรณ์และทุนสนับสนุน ทำให้หนังของแต่ละทีมดูดีมีคุณภาพ และมีความน่าสนใจ ต่างจากเราลิบลับ ครูพิชิตซึ่งเป็นที่ปรึกษาต้องเรียกทีมงานมาปลุกขวัญกำลังใจ “ช้างเผือกมักจะอยู่ในป่าลึก และช้างเผือกตัวนั้นก็คือ เรา”ทีมงานของเราถึงกับยิ้มออกและขอสู้อีกสักตั้ง หนังเรื่องแล้วเรื่องเล่าฉายผ่านไป หลังจากนั้นกรรมการก็จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับหนัง ทันทีที่หนังของเราฉายสู่จอ ผู้ชมในห้องเงียบกริบ จดจ้องไปที่จอด้วยสายตาไม่กระพริบก็ว่าได้ “หนังของเราสามารถสะกดคนดูได้เพียงนี้เลยหรือครับ” หนึ่งในทีมงานกระซิบกับครูพิชิต บางคนควักผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาเป็นระยะๆ เมื่อหนังฉายจบเสียงตบมือก็ดังลั่นห้อง และกรรมการก็เอ่ยปากชมว่า “หนังเรื่องนี้มีวิธีการที่สามารถสื่อสารให้คนดูรับสารได้ดีมาก โดยเลือกใช้สีหน้า ท่าทาง และการแสดงออกทางอารมณ์ของนักแสดงเป็นหลัก ถ้าหากหนังมีความยาวมากกว่านี้คงจะเรียกน้ำตาของคนดูได้ทั้งโรง ผมขอชม” หลังจากวันนั้น 2-3 วัน สิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตารอคอยก็มาถึง ผลการแข่งขันปรากฏว่า หนังสั้นจากโรงเรียนบ้านโคกลำดวน ได้ลำดับที่ 2 จากทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 61 ทีม ทุกคนดีใจมากกระโดดโลดเต้นกันทั้งน้ำตา เพราะหมายความว่า เราจะได้ไปเมืองทองธานีเป็นปีที่ 2
วันที่ 27 มกราคม 2554 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ทีมงานคุณธรรมหน้าใส จากโรงเรียนบ้านโคกลำดวนไปรายงานตัวเข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่เช้า ซึ่งในช่วงเช้าเป็นการแข่งขันในระดับประถมศึกษา ส่วนตอนบ่ายเป็นการแข่งขันในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งทีมงานได้ชมหนังสั้นของทุกทีมที่ส่งเข้าแข่งขัน และรับฟังคำแนะนำจากกรรมการผู้ตัดสินด้วยความใจจดใจจ่อ แต่ละเรื่องที่ผ่านสายตานั้นล้วนเป็นหนังที่ดีมีคุณภาพ นำเสนอในแง่มุมที่หลากหลาย ส่วนผลจะออกมาเป็นประการใด ทีมงานเรายอมรับได้เพราะทุกทีมล้วนมีความตั้งใจและทำได้ดี สำหรับหนังสั้นของทีมคุณธรรมหน้าใส ได้รับคำแนะนำว่า “เป็นหนังที่กล้านำเสนอด้วยวิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพผ่านตัวแสดงที่มีลักษณะทางหน้าตาที่โดดเด่น และการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติ มีการหักมุมในตอนท้ายของเรื่อง เรื่องราวมีความน่าสนใจ ส่วนดนตรีที่ใช้ประกอบนั้นทำนองมีความราบเรียบเกินไป ถ้าปรับแก้ได้จะทำให้หนังมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ต้องขอชมว่า กล้าทำและทำได้ดีด้วย” คำพูดของกรรมการช่างน่าฟังและมีความหมายยิ่งนักในเวลานี้ ทีมงานใจชื้นขึ้นมาทันที หลังจากนั่งลุ้นจนตัวเกร็งมาตลอดช่วงบ่าย หลังจากนั้นไม่นานนักนาทีที่สำคัญและรอคอยก็มาถึง เสียงประกาศจากพิธีกรประจำงานประกาศดังขึ้น รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ.... รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีมโรงเรียนบ้านโคกลำดวน รางวัลชนะเลิศ คือ ทีม.......... สิ้นเสียงประกาศของพิธีกร ทุกคนกระโดดกอดกันและปล่อยโฮออกมา ด้วยความรู้สึกอันเดียวกัน.........
.และที่ปลื้มที่สุดคือ ทีมงานได้รับเหรียญรางวัลและเกียรติบัตรจากท่านชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นจะเป็นภาพที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของทีมงานและผู้อยู่เบื้องหลังกันทุกคนตราบนานเท่านาน...................................

หรั่ง...เด็กผู้ชายหัวใจเพชร
เรื่องราวของเด็กชายลูกครึ่งที่อยู่กับน้าสาวพิการด้วยกันตามลำพัง
เขาเผชิญกับเรื่องราวต่างๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเกิดความท้อแท้แต่อย่างใด
กลับสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นทั้งกายและใจ
เปรียบดั่งเพชรเม็ดงามที่ได้รับการเจียรนัยให้วาววับ
ด้วยคุณธรรมความดี

หนังสั้น "หรั่ง" เด็กชายหัวใจเพชร